วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

S P A C E


ที่ว่าง ที่สมดุล
ความสุขก็เช่นกัน
อย่าลืมเว้นที่ว่างไว้
สำหรับบรรจุความสุข



ในห้องหัวใจ
แม้จะบรรจุใครไว้
แต่สมดุลของช่องว่าง
ยังคงสำคัญ
สำหรับคนสองคน

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เวลาไหนบ้าง ที่เรายกนาฬิกาขึ้นมาดู?

เวลาไหนบ้าง ที่เรายกนาฬิกาขึ้นมาดู? .....ส่วนใหญ่แล้วคนเราจะยกนาฬิกาขึ้นมาดูในช่วงเวลาที่เราอึดอัด หรือกังวล มากกว่าช่วงเวลาที่มีความสุข เหมือนที่นิ้วกลมกล่าวว่า "ผู้มีความสุข ย่อมไม่จินตนาการถึงความสุข เขาไม่ต้องการเดินทางไกล ไม่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูบ่อยบ่อย ไม่พลิกปฏิทินเพื่อหาวันเวลา" ณ ที่หนึ่ง เราแหงนมองท้องฟ้า กลางวัน ฟ้าเป็นฟ้า มีเมฆหมอก และฟ้าสีความสดใส กลางคืน ฟ้าเป็นทะเลดวงดาว นับล้าน "ยิ่งมืด ยิ่งเห็นดวงดาว" พื้นดินอาจฟุ้งไปด้วยฝุ่นและดินแดง แต่เป็นดินที่เราอยากไปเหยียบแทนพื้นคอนกรีต หินแข็ง "บ้านหลังสุดท้ายบนเนินสูง" สามารถเห็นทิวทัศน์และเส้นทางที่เราย่ำมา..... นั่นไง! ทางเดินเส้นโค้งไปมา แหวกกลางหว่างเทือกเขา เห็นเป็นช่องสีดินแดงนั่น "โอ้!......นี่ฉันเดินไกลขนาดนี้เชียวหรือ" ......ปากทาง มีหมู่บ้านอยู่ติดถนนใหญ่ ชาวบ้านเรียกกัน "บ้านนอก" หรือบ้านก่อก๋วงนอก แต่เดินเข้ามาลึกๆ มีอีกหมู่บ้านบนยอดดอย จุดหมายของเรา "เมื่อไรจะถึงนะ" เป็นคำถามสำหรับทุกคนที่มาที่นี่ครั้งแรก เพราะจะรู้สึกได้ว่าเดินเท่าไรก็ไม่ถึงสักที ยิ่งเดินยิ่งไกล ยิ่งสูงยิ่งเหนื่อยจนอยากจะนอนตายอยู่ตรงนั้น นอนรอให้ใครก็ได้มายกร่างไป เหนื่อยเดินแล้ว.....โอ๊ย! ......จุดพักกลางทาง เหนื่อยแทบขาดใจ หยุดก่อน ขอหยุดพักหายใจก่อน ไม่ไหวแล้ว...... แต่พอลองหันกลับไปดูเส้นทางที่เดินมา......หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เส่นทางที่แสนทรมานเมื่อตะกี้ เมื่อมองย้อนเส้นทางลงไป ช่างงดงามเหลือเกิน ความงามบวกกับความเหน็ดเหนื่อย ยิ่งเพิ่มความงามให้สิ่งที่เห็นตรงหน้า สวยขึ้นเป็นร้อยเท่าพันเท่า "ฉันอิ่มใจเหลือเกิน" "บ้านหลังสุดท้ายบนเนินสูง" เด็กๆ พากันชี้บอกจุดว่าที่บนเขานั้นเป็นไร่ของใครบ้าง ปลูกพืชอะไรบ้าง ฉันพยายามมองตามและทำความเข้าใจ แต่คุณก็คงรู้ ฉันไม่เข้าใจและจำไม่ได้หรอกว่าที่ตรงไหนเป็นของใครบ้าง เด็กน้อยตาใสๆ ยังคงชี้ไม่ชี้มือบอกต่อไปเรื่อยๆ แต่ดวงตาฉันตอนนี้พยายามเก็บภาพทิงเขาและเส้นทางบนยอดเขาที่สวยงามนี้ไว้ ภาพที่มองไปเห็นแต่ภูเขาสลับซับซ้อนเหนือเขาคือหมอกและเมฆหนาสลับกับฟ้าสีฟ้าใสๆ ทางคดเคี้ยวตรงหน้าที่เห็นยิ่งเพิ่ความสวยงามให้มากขึ้น เส้นทางไกล แต่มันมีจุดหมาย เพราะเป็นเส้นทางสายเดียวที่ทอดมาจากทางข้างล่างถึงข้างบนยอดดอยนี้ และนี่คือจุดหมายของเรา การเดินทางของเรา "ฉันอิ่มใจเหลือเกิน" ก่อก๋วง อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ที่ที่ดาวเต็มฟ้า โดยที่ฉันไม่ต้องจินตนาการ ที่ที่ฉันไม่ต้องพกนาฬิกา และปฏิทิน เพื่อดูวันเวลา #ณน่านที่นี่เราเดินช้าช้า

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คงจะมีวันนั้น

หยุดความเจ็บช้ำที่มันเจอซ้ำๆ ย้ำๆ ว่าไม่เคยรัก ไม่อยากเจอความช้ำ ในเรื่องของความรัก ที่มันต้องจบแบบซ้ำๆ ว่าฉันรักไปเองคนเดียว ทุกครั้งที่มีความรัก มักจะเป็นฉันที่พร่ำเพ้อเพียงลำพัง และจบเองเพียงลำพังอย่างเดียวดาย ไม่เคยมีใครมารัก ไม่เคยมีใครมาทักมาส่งความรักบอกกันว่ารักเธอ อยากพบความรักที่เป็นเรารักกัน ไม่ใช่ฉันรักเธอ หรือเธอรักฉัน เคยคิดเคยฝัน คงต้องมีสักวัน ที่จะมีวันนั้น วันที่เจอคนนี้ เธอคนที่เรารักกัน

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Time

เอาเวลาแขวนข้างฝาไว้..... บางครั้ง.....เราก็ชอบทำอะไรโดยไม่ต้องพึ่งเวลา แต่บางที...เวลาก็เป็นสิ่งที่เราต้องการเหลือเกิน โหยหา....เรียกร้อง ขอเวลา ไขว่คว้าเท่าไรไม่มีเหลือ แม้เพียงหนึ่งนาทีก็เหลือเฟือ ช่วยโอบเอื้อเกื้อกูลขอคืนมา นาฬิกาไม่เดินย้อนถอยหลัง เหมือนเช่นดั่งชลไหลระเรื่อยหนา ทำสิ่งใดตั้งใจใช้เวลา เกิดคุณค่าคุ้มเวลาและนาที